พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป หากคุณกำลังมองหา สถานที่พักผ่อน พักใจไปกับวิวภูเขา เราอยากแนะนำที่นี่สุด ๆ
พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป เรื่องราวของ 4 ใน 20 สถาน ที่ ท่องเที่ยวในยุโรป ที่นับว่ามีความสวยงามมากที่สุด จะมีที่ไหนกันบ้าง ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่า จริง ๆ แล้วมันมีหลายที่ ที่รอให้คุณและครอบครัว ไปสัมผัสกับความสวยงาม ของธรรมชาติทั่วโลก ใครที่เตรียมตัวเก็บข้อมูลไปบ้างแล้ว เราขอฝาก 4 ที่นี้ไว้เพื่อเป็นแนวทาง
ถ้าเพื่อน ๆ พร้อมแล้ว ก็เตรียมยื่นขอ วีซ่า เก็บกระเป๋า เตรียมตัวให้พร้อมเลยนะ อลิสขอเริ่มต้น พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป กันที่สถานที่แรก มีชื่อเรียกว่า Rainbow Moutain เรียกเป็นไทยว่าภูเขาสายรุ้ง อยู่ในประเทศเปรูในเมืองกุสโก ด้วยความสูงกว่า 5,200 เมตร เป็นภูเขาที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก
อีกชื่อหนึ่งที่นักท่องเที่ยว รู้จักกันดีนั่นก็คือ Vinicunca ซึ่งก็เป็นชื่อของปราสาทพื้นเมือง แปลตรงตัวว่า ภูเขาสี สาเหตุที่มีสีรุ้ง ก็เพราะว่ามีแร่ธาตุจำนวนมาก และเป็นแร่ธาตุที่ต่างสีกัน มีกว่า 14 ชนิดด้วยกัน ส่งผลให้เกิดเป็นริ้วสีต่าง ๆ สีหลักที่โดดเด่นก็ได้แก่ สีม่วงอ่อน สีคราม แล้วก็สีทอง
ถ้านั่งเครื่องบิน จะพบเจอสีสวย ๆ พาดยาวไปตามแนวเขา ส่งผลให้มองเห็นเป็นรูปสายรุ้ง ก็เป็นแร่ธาตุหลากหลายชนิด ซึ่งก็มีระยะเวลาหลักล้านปี กันเลยทีเดียว
พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป สำหรับภูเขาลูกนี้ อายุมากถึง 5,000 ปี แต่ก็เพิ่งค้นพบได้ไม่นาน ในช่วงปี 2013 นี้เอง
เนื่องด้วยผลกระทบ จากสภาวะโลกร้อนในช่วงนั้น ยังมีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ แต่พอน้ำแข็งละลายออกมา จึงทำให้มีการค้นพบภูเขาดังกล่าวขึ้น และภูเขานี้ก็เริ่มเป็นที่รู้จัก และมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมมากขึ้น และนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในร้อยสถานที่ ที่ควรไปก่อนตายกันเลยทีเดียว
พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป ภูเขาสายรุ้งนี้ ก็มีสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่ ได้แก่นกแร้ง อัลปากา วิสคาช่า ลามา หากเยี่ยมชมภูเขาแห่งนี้ ในช่วงที่ท้องฟ้าแจ่มใส ก็จะส่งผลให้คุณได้เห็นภูเขาอีก 2 ลูก นั่นก็คือ Salkantay และ Ausangate จะเป็นส่วนที่ปกคลุม ด้วยธารน้ำแข็งนั่นเอง
ช่วงเดือนที่เหมาะสม ที่จะไปภูเขาสายรุ้งนี้ ก็ต้องเป็นช่วงฤดูร้อน หรือเริ่มตั้งแต่เมษายน ไปจนถึงตุลาคม ด้วยเหตุผลที่ว่า มีฝนตกน้อย การเดินทางขึ้นไปบนภูเขาก็จะง่ายขึ้น แน่นอนว่าสภาพอากาศบนภูเขา โดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะไม่ค่อยแน่นอนสักเท่าไหร่
ไม่ว่าจะเป็นภูเขาที่ไหนก็ตาม และรวมถึงภูเขาสายรุ้งนี้ด้วย ในบางครั้งในช่วงฤดูแล้ง ก็อาจจะมีหิมะตกได้เช่นกัน หากเป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็น ก็มักจะมาพร้อมกับลมแรง ใช้อุณหภูมิที่ต่ำสุดจะอยู่ที่ 0 องศาในช่วงกลางคืน
แน่นอนว่าการไปเที่ยวสถานที่แบบนี้ ก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ การท่องเที่ยวให้พร้อมอย่างมาก และการจะไปที่นี่ ก็จำเป็นที่จะต้องมีนักเดินทาง เพื่อนำทางไปด้วย ต่อให้คุณเป็นนักปีนเขา ก็มีโอกาสที่จะค้นหาภูเขาแห่งนี้ไม่เจอ และภูมิประเทศบนภูเขาละแวกนี้ ก็เป็นอะไรที่ยากมากในการที่จะสำรวจ จึงจำเป็นที่จะมีไกด์ในพื้นที่ไปด้วย ถึงจะปลอดภัยมากที่สุด
ถ้าจะเลือก เที่ยวยุโรป ประเทศไหนดี ถูก ใจกันมากที่สุด คงต้องไม่พ้นที่นี่เลย
พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป มาต่อกันที่ สถานที่ท่องเที่ยวทวีปยุโรป สถานที่นี้ก็มีชื่อว่า ภูเขาคีร์กจูเฟล อยู่ในประเทศไอร์แลนด์ ทวีป ยุโรป นั่นเอง สำหรับภาษาอังกฤษจะเรียกที่นี่ว่า Church Mountain เรียกง่าย ๆ ว่าภูเขาโบสถ์นั่นแหละ ชื่อของมันนั้นก็มาจากรูปลักษณ์ของมัน
ที่มองภายนอก ก็ดูลักษณะคล้ายกับโบ บางคนนะก็อาจมองว่าเป็น หมวกของแม่มด หากมองในระยะใกล้ ก็จะพบเห็นว่าภูเขาที่นี่นั้น มีการแบ่งเป็นชั้นอยู่นั่นเอง โดยที่ชั้นล่างสุดนั้น ก็จะเป็นชั้นที่เรียกว่าชั้นฟอสซิล ซึ่งมีมาอย่างยาวนาน
คาดกันว่ามีมาตั้งแต่ช่วงยุคน้ำแข็ง และมีอายุหลักล้านปีกันเลยทีเดียว สำหรับชั้นบนนั้นก็เป็นชั้นหิน ซึ่งก็เป็นหินลาวา ซึ่งก็เกิดในช่วงที่ ยุคน้ำแข็งเริ่มอุ่นขึ้นมาแล้ว สำหรับหินที่อยู่ที่ชั้นนี้ ก็ต้องมีอายุน้อยกว่าชั้นล่างอย่างแน่นอน ความสูงของภูเขาลูกนี้อยู่ที่ 463 เมตร
และเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวเท่านั้น แล้วก็เป็นกี่สถานที่หนึ่ง ที่มีการถ่ายรูปมากที่สุด ในประเทศไอซ์แลนด์ บริเวณใกล้เคียง ก็จะมีสถานที่สำคัญอีกอย่าง นั่นก็คือ น้ำตกที่มีชื่อว่า Kirkjufellsfoss โดยส่วนใหญ่แล้ว นักท่องเที่ยวก็เลือกที่จะมาถ่ายรูปน้ำตกแห่งนี้
โดยที่มี background เป็นภูเขาโบสถ์ และโดยส่วนใหญ่ นักปีนเขาก็เลือกที่จะมาปีนเขา ที่ภูเขาโบสถ์แห่งนี้ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีความท้าทาย และความสวยงามด้านบนภูเขานั้น ก็ควรค่าแก่การที่จะปีนป่ายขึ้นไป
สำหรับยอดเขาที่อยู่ทางทิศใต้นั้น ก็จะมีความชันมากกว่าทางทิศเหนือ และหากคุณมองเขาลูกนี้ จากทางทิศตะวันตก ก็จะมองไม่เห็นว่าเป็นยอดแหลม หากคุณนั้นมองจากทิศใต้ ก็จะเห็นว่าเป็นยอดแหลมนั่นเอง การมองจากทิศตะวันตก ก็จะส่งผลให้มองเห็นเป็นภูเขาหัวตัด สำหรับพวกเขาโบสถ์หรือว่า คีร์กจูเฟล
นั่นก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่เต็มไปด้วยความสวยงามตลอดทั้งปีกันเลยทีเดียว ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะมาในช่วงฤดูใดก็ตาม และหากคุณได้มาในช่วงที่เป็นฤดูหนาว ก็จะมองเห็นชัดเจนว่า เป็นหมวกของแม่มดอย่างมากที่สุด และในช่วงนั้นก็จะปกคลุมไปด้วยสีขาวจากหิมะ
สำหรับการจะเดินทาง จากประเทศไทยไปที่ไอร์แลนด์โดยตรงนั้น ก็ไม่มีสารการบินในการไป ด้วยเหตุนี้ก็เลยจะต้อง บินไปที่เมืองไหนก็ได้ ในทวีปยุโรปก่อน จากนั้นก็ค่อยนั่งเครื่องบิน ต่อไปที่ไอร์แลนด์ เมืองหลักของไอร์แลนด์นั้นมีชื่อว่า เรคยาวิก ซึ่งก็จะมีสนามบิน 2 แห่งด้วยกัน
แต่ละที่นั้น ก็เป็นสนามบินนานาชาติ ได้แก่ Reykjavik Domestic Airport และ International Airport ไม่ว่าคุณจะนั่งจาก สายการบินใดของยุโรป เครื่องบินก็จะลงจอด ที่สนามบินนานาชาติอย่าง Keflavik International Airport ซึ่งมีระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร
ห่างจากตัวเมืองเรคยาวิก นอกเสียจากว่าคุณจะเลือกเดินทางมาจาก หมู่เกาะที่มีชื่อว่าเกาะแฟโร แล้วก็ของกรีนแลนด์นั่นเอง โดยจะมีเที่ยวบินระหว่างประเทศ บินไปลงจอด ที่สนาม Reykjavik Airport กันเลยทีเดียว และมีระยะทางเพียงแค่ 3 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองเรคยาวิก
สำหรับการเดินทาง จากสนามบิน Keflavik International Airport เพื่อจะไปยังตัวเมืองเรคยาวิก ใช้เวลาเต็มที่ไม่เกิน 45 นาที โดยส่วนใหญ่แล้ว ก็จะมีหลากหลายบริษัท ให้บริการเช่ารถยนต์กัน สำหรับภูเขาโบสถ์แห่งนี้ ก็นับว่าเป็น สถาน ที่ ท่องเที่ยว แปลกๆ ในยุโรป ที่น่าสนใจอย่างมากทีเดียว แถมยังมี ที่พักวิวภูเขา อีกเพียบเลยล่ะ
เที่ยวยุโรป pantip บอกต่อสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีไฮไลท์สำคัญก็คือ ถ้ำน้ำแข็งจะสวยงามมากแค่ไหน และจะเป็นที่ไหนนั้น ตามมาเลย
พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป มาต่อกันที่ เที่ยวยุโรป ที่ต่อไปกันเลยโดยที่นี่นั้น ก็เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงอย่างมากใน ประเทศ ส วิ ต เซอร์ แลนด์ มีชื่อภูเขาว่า Matterhorn หากใครมาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แล้วไม่ได้มาที่ภูเขาที่ว่านี้ ก็เหมือนมาไม่ถึง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เลยล่ะ
สำหรับรูปของภูเขานี้นั้น โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณอาจจะคิดว่าคุณไม่รู้จัก แต่ไม่เลย มันถูกนำมาใช้เป็นโฆษณา ของสินค้าชื่อดังหลากหลายอย่าง ซึ่งก็ได้แก่ ช็อกโกแลตชื่อดังอย่าง Toblerone หรือว่าจะเป็นลูกอมชื่อดังอย่าง Ricola
และแม้แต่ค่ายภาพยนตร์ชื่อดังอย่างค่าย Paramount Pictures รูปภูเขาที่เป็นโลโก้ของค่ายก็คือภูเขา Matterhorn แน่นอนว่าด้านบน ก็เป็นยอดเขาที่สวยงาม มากที่สุดในประเทศนี้แล้ว ซึ่งก็มีรูปทรงเป็นพีระมิด กับความสูงที่มากถึง 4,478 เมตร โดยที่ตลอดทั้งปี ภูเขาแห่งนี้ ก็จะเต็มไปด้วยหิมะปกคลุม
พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป สำหรับสถานที่แห่งนี้นั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว ที่ชอบปีนเขาหรือว่านักปีนเขา พวกเขาก็มักจะมาเยี่ยมเยือน ที่นี่กันเป็นประจำเลยล่ะ และเมืองที่อยู่ใกล้ภูเขา Matterhorn มากที่สุดนั้น ก็เป็นเมืองสำคัญที่มีชื่อว่า Zermatt เนื่องจากเมืองนี้ ก็เป็นเมืองที่มีความจำเป็น ที่จะต้องใช้รถประจำทาง
รถประจำทางที่น่าสนใจที่สุด โดยจะหนีไม่พ้นรถไฟ และสายที่สำคัญที่จะไปเยี่ยมภูเขาแห่งนี้ นั่นก็คือรถไฟสาย Glacier Express นั่นเอง โดยที่ชื่อของมัน ก็ดูไม่น่าขึ้นเลยล่ะ เนื่องจากมันเป็นรถไฟความเร็วสูง
แต่ถึงอย่างนั้น ก็วิ่งช้ามากที่สุดในโลก ข้อดีของการได้นั่งรถไฟก็คือ คุณจะได้ชมวิวของเทือกเขาแอ ล ป์ ไปด้วย โดยที่สถานีรถไฟที่สูงที่สุดของที่นี่ ก็คือสถานี Gornergrat สำหรับสถานีด้านล่างก็มีชื่อว่า Rotenboden
สำหรับสถานีสุดท้าย ของสายรถไฟแห่งนี้นั้น ก็มีชื่อว่าสถานี Klein Matterhorn โดยมีการสร้างจากสายเคเบิล ที่ยึดกับบริเวณแผ่นน้ำแข็ง และจุดดังกล่าวนี้ ก็ยังเดินทางต่อไปยัง จุดชมวิวแบบพาโนรามาได้อีกด้วย คุณจะได้พบกับถ้ำน้ำแข็งที่มีชื่อว่า Glacier Palace
พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป โดยในช่วงระหว่างทาง ก็จะมีห้องอย่างห้อง Cinema Lounge ให้นักท่องเที่ยวได้มานั่งพักผ่อนกัน สำหรับปี 2015 นั้นก็เป็นปีสำคัญ ที่เป็นปีที่เรียกได้ว่าครบรอบ 150 ปี สำหรับนักปีนเขาชาวอังกฤษ ที่ชื่อว่า เอ็ดเวิร์ด วิมเปอร์ ด้วยความที่เขานั้น สามารถพิชิตยอดเขาแห่งนี้ได้เป็นครั้งแรก
สำหรับจุดชมวิวพาโนรามานั้น ในช่วงเวลาปกติที่ไม่มีเมฆปกคลุม หรือว่าไม่มีพายุหิมะ ก็จะพบเห็นกับยอดเขา Matterhorn ในรูปแบบที่สวยที่สุด แบบเต็มตา นอกจากนี้ก็ยังได้เห็น เทือกเขาอีกมากมายกันเลยทีเดียว
สถานที่อีกอย่าง ที่สำคัญในภูเขาแห่งนี้นั่นก็คือ ถ้ำน้ำแข็งที่มีชื่อเรียกว่า Glacier Palace ซึ่งทำน้ำแข็งดังกล่าวนี้ ก็มีอายุถึง 1 ทั้งปีเลยล่ะ โดยมีโพรงขุดเจาะเข้าไป ให้คุณได้เข้าไปเยี่ยมชมกันแบบใกล้ชิด แน่นอนว่าข้างในนั้น ก็เป็นสถานที่ที่สวยงาม และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เลือกที่จะไปถ่ายรูปกัน ในถ้ำแห่งนี้
พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป ปิดท้ายด้วยภูเขา ที่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย จะน่าเที่ยวมากแค่ไหนกันนะ แต่ที่แน่ ๆ สวยสุด ๆ
พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป สำหรับสถานที่แห่งนี้ ก็จัดอยู่ในสถานที่ 5สถานที่ท่องเที่ยวในยุโรป ที่เที่ยวได้ในราคาที่ถูกมาก ๆ ซึ่งก็เป็นภูเขาที่อยู่ในประเทศเนปาล มีชื่อภูเขาว่า อามาดาบลัม หรือเรียกอีกอย่างหนึ่ง ก็คือเป็นเทือกเขาหิมาลัย ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกนั่นเอง
ความสูงของยอดเขาแห่งนี้ อยู่ที่ 6,812 เมตร ซึ่งชื่อภูเขาแห่งนี้ ก็มีความหมายง่าย ๆ ว่า สร้อยคอของแม่ ตั้งชื่อตามแนวยาวของภูเขาจากแต่ละฝั่ง ซึ่งมีความยาว เปรียบเสมือนแขนของคุณแม่ ที่คอยประคับประคองคุณลูกไว้
และยังมีธารน้ำแข็งบนภูเขาอีกด้วย สำหรับยอดเขานี้นั้นนักปีนเขา ก็เลือกที่จะมาพิชิตยอดเขาที่นี่กัน เป็นลำดับที่ 3 โดยเลือกใช้เส้นทาง Southwest Ridge ซึ่งก็มีความจำเป็นที่จะต้อง ตั้งแคมป์กว่า 3 ครั้ง จึงจะสามารถพิชิตความหนาวเย็นแล้ว ก็สามารถปีนยอดเขาที่สูงชัน จนไปถึงด้านบนสุดได้
และการที่จะมาพิชิตยอดเขาแห่งนี้ คุณก็ต้องเป็นนักปีนเขา พี่ต้องได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังจำเป็นที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่ คอยดูแลไปด้วย จึงจะสามารถไปเยี่ยมชมที่นี่ได้ พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป ขอแนะนำเดือนที่เหมาะสมมากที่สุด ที่จะมาเยี่ยมชมนั่นก็คือ เดือนเมษายนหรือพฤษภาคม
หรือช่วงเดือนกันยายนจนถึงเดือนตุลาคม โดยที่ในปี 1997 นักผจญภัยสัญชาติอังกฤษมีชื่อว่า แบร์ กริลล์ส ในขณะนั้นของมีอายุ 23 ปี เขาสามารถที่จะไปเยือนบนยอดเขาของภูเขานี้ แล้วจะได้ว่าเป็น ชายสัญชาติอังกฤษที่มีอายุน้อยที่สุด ที่สามารถมาพิชิตยอดเขาที่ว่านี้ได้
ล่าสุดก็มีนักผจญภัย สัญชาติอังกฤษอีกท่านหนึ่ง ที่มีชื่อว่า John Sanderson-Rooney โดยที่เขามีอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น เขาสามารถพิชิตยอดเขาที่นี่ได้ในวันที่ 9 ธันวาคมปี 2019 สำหรับภูเขาอามาดาบลัม
ก็เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ ที่หากคุณค้นหาคำว่า เที่ยวยุโรป ประเทศไหนดี หรือ พาเที่ยวภูเขาฝั่งยุโรป ก็จะพบเจอภูเขาแห่งนี้ได้ไม่ยากเลย ถ้ากำลังหา ที่พักเด็ด ขอบอกต่อ แน่นอนว่าใน Ep.หน้า อลิสจะมาเจาะที่พัก บริเวณภูเขาเหล่านี้ ให้เพื่อน ๆ ได้ตัดสินใจกันค่ะ
ว่าแล้วก็ขอฝากบทความกีฬา ที่คุณต้องไม่พลาดอย่าง รายการแข่งขันกอล์ฟ ที่บอกเลยว่า เอาใจสายชิลกันสุด ๆ อัปเดตกันแบบ ไม่มีคำว่าช้าเลยทีเดียวนะ สำหรับสายลูกหนัง อย่าน้อยใจไปค่ะ อลิสก็ยังมี ไฮไลท์นักเตะ2023 มาฝากเพื่อน ๆ อีกเช่นกัน อย่าลืมตามไปอ่านกันน้า
เขียนโดย อลิส
