แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ โรงแรมเก่าแก่ และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เป็นจุดหมายระดับตำนานของนักเดินทาง บริการมายาวนานถึง 143 ปี
แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ โรงแรมที่ได้ชื่อว่ามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ สำหรับนักเดินทางระดับไฮโซหรูหรา ที่เดินทางมายังประเทศไทย จากทั่วทุกมุมโลกโลกมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันทางโรงแรมได้เปิดให้บริการ มาเป็นปีที่ 143 แล้ว
โดยในปัจจุบันนี้ ทางด้านผู้บริหารของโรงแรม ได้มีนโยบายในการดำเนินงาน ที่มุ่งเน้นในเรื่องของการคงไว้ซึ่งชื่อเสียงอันโด่งดัง และภาพลักษณ์ที่ดีงาม ทางด้านการให้บริการของทางโรงแรม ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักสำคัญของธุรกิจในประเภทนี้
โดยล่าสุด ได้มีการจัดตั้ง เงินงบประมาณ เป็นจำนวนเงินมากถึง 2.5 พันล้านบาท สำหรับการปรับปรุง ตัวอาคารของโรงแรมที่มีอายุเก่าแก่ถึง 143 ปี ใหม่ทั้งหมด เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า จุดเด่นของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล
โรงแรมแห่งนี้ มีที่ตั้งอยู่ในบริเวณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อันถือได้ว่าเป็นทำเลทองคำ ที่มีค่าเป็นอย่างมาก สำหรับธุรกิจในประเภทนี้ มันเป็นโรงแรมที่ได้ชื่อว่า เปิดให้บริการมายาวนาน และเก่าแก่ที่สุดในเมืองไทย
และยังเคยได้รับการจัดอันดับ จากนิตยสาร และสื่อประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และการโรงแรมอีกมากมาย ว่าให้โรงแรมแห่งนี้เป็น “โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก” และยังคงรักษาอันดับดังกล่าว มาได้ตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบัน
โดยแทบจะเรียกได้ว่า มันเป็นการสืบทอดมรดก ทางธุรกิจโรงแรม โดยผ่านกาลเวลา จากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ที่ใช้เวลายาวนานมากถึง 143 ปี โดยยังคงรักษาไว้ซึ่ง ความหรูหราสวยงามของสถานที่ ห้องพัก และมาตรฐานของการให้บริการที่ยอดเยี่ยม
ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งที่ใช้ดึงดูด และยังก่อให้เกิด ความประทับใจอย่างที่สุด ให้กับลูกค้าที่เดินทางมา จากทั่วโลกตลอดทั้งปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางโรงแรมก็ได้มีโอกาส ต้อนรับลูกค้าระดับสูง ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ดารา นักร้อง ผู้นำประเทศ รวมไปจนถึงสมาชิกของราชวงศ์ประเทศต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ ที่อยู่
เมื่อย้อนกลับไปสู่ในจุดเริ่มต้น ของประวัติศาสตร์
โดยเมื่อในอดีตกาลนั้น ในเมืองไทยยังไม่มีใคร ที่ประกอบธุรกิจโรงแรมมาก่อน จนมาถึงเมื่อครั้งปี พ.ศ. 2398-2399 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ได้ทรงมีพระราชดำรัส ให้มีการเปิดความสัมพันธ์ทางการค้า กับประเทศทางชาติตะวันตก
โดยทรงมีพระบรมราชานุญาต ให้ริเริ่มมีการก่อตั้ง สถานกงสุลในเมืองไทย ที่จะใช้ดำเนินการ สำหรับทางด้าน การค้าขายระหว่างประเทศ โดยชาติแรกที่ได้เดินทางเข้ามา เชื่อมความสัมพันธไมตรี ทางการค้าเป็นชาติแรกคือ ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นก็มีมาเพิ่มเติม อีกหลายประเทศในภายหลัง โปรโมชั่น โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ
ต่อมาได้มีนายทหารบกชาวเดนมาร์ก 2 นาย คือ ร้อยเอกชาร์ล และ ร้อยเอกจาร์ด ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และมีความคิด ที่จะปักหลักอยู่อาศัย บนผืนแผ่นดินไทยด้วยการ ลงทุนสร้างโรงแรมที่พักเล็กๆ สักแห่งหนึ่งที่บริเวณที่ดิน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยได้ตั้งชื่อว่า “โรงแรมโอเรียนเต็ล” และได้ดำเนินการเปิดให้บริการเรื่อยมา ตั้งแต่ตอนนั้น
ต่อมาโรงแรมแห่งนี้ ได้ถูกเปลี่ยนเจ้าของกิจการผู้ดูแล อีกหลายต่อหลายครั้ง โดยมันได้ตกมาเป็นของ เอช เเอนเดอร์เซน ซึ่งเป็นชาวเดนมาร์กด้วยกัน ในปี พ.ศ. 2430
ซึ่งช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่ทางโรงแรม ได้รับการฟื้นฟูพัฒนาอย่างมาก จนกิจการของโรงแรม เจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู มีชื่อเสียงขจรขจาย โด่งดังออกไป เป็นที่รู้จักกันของผู้คนในวงกว้าง ก่อนที่ หลุยส์ โธมัส ลีโอโนเวนส์ ผู้ที่เป็นบุตรชายคนเดียว ของผู้ที่เป็นคนแต่งหนังสือ “Anna and the King of Siam” จะเข้ามาซื้อกิจการของทางโรงแรม ในปี พ.ศ. 2436
ต่อมาเศรษฐีนีชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ มาดามมาเรีย แมร์ ได้เข้าควบรวมกิจการ และจัดการบริหารจัดการ อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาที่ยาวนานถึง 22 ปี จนโรงแรมมีความเจริญ ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น และเมื่อหลังเสร็จสิ้น เหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 แหม่ม ครูลล์ ก็ได้เข้ามาเป็นเจ้าของคนใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2488 โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ห้องประชุม
ในวันที่ต้องเดินหน้า ก้าวเข้าสู่ศตวรรษใหม่
ในปี 2501 ทางโรงแรมที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ ได้มีการเปิดตัวอาคารที่พัก สำหรับลูกค้าหลังใหม่ชื่อว่าอาคาร “การ์เด้น วิง” พร้อมๆ กับการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของ “ห้องอาหารเลอ นอร์มังดี”
และแล้วการเปลี่ยนแปลง ครั้งที่มีความสำคัญ ต่อประวัติศาสตร์ของโรงแรมก็มาถึง เมื่อ “นายชัยยุทธ กรรณสูต” แกนนำกลุ่มทุนจาก “กลุ่มบริษัทอิตัลไทย” ได้ทำการเข้าซื้อต่อ กิจการของโรงแรม ที่มีห้องพักรวมกัน ทั้งหมดในเวลานั้น 133 ห้อง ในปี พ.ศ. 2510 โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ ห้องอาหาร
โดยต่อมา บริษัทจาร์ดีน แมธทีสัน (Jardine Matheson) ซึ่งเป็นบริษัทกลุ่มทุนจากประเทศอังกฤษ ได้เข้ามาขอร่วมลงทุนด้วยในปี พ.ศ. 2517 โดยการใช้บริษัท ที่อยู่ในเครือข่ายธุรกิจที่มีชื่อว่า ฮ่องกงแลนด์ จำกัด เป็นบริษัทตัวแทน ในการเข้าถือหุ้นของโรงแรม และได้ลงมือก่อสร้าง พร้อมเปิดตัวอาคาร ที่พักใหม่เพิ่มเติม อีกหนึ่งหลังในทันที โดยใช้ชื่อว่าอาคาร “ริเวอร์ วิง”
ได้มีการถ่ายโอนหุ้น ของโรงแรมกันระหว่าง บริษัทฮ่องกงแลนด์ จำกัด กับ Mandarin Oriental Holdings B.V. ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทนี้ คือบริษัทที่เป็นผู้ถือหุ้น รายใหญ่ของโรงแรม โดยถืออยู่ที่ 42.39%
ในปี พ.ศ. 2536 กิจการของโรงแรม ได้เบนเข็มก้าวเข้าสู่ ตลาดหลักทรัพย์ อย่างเต็มภาคภูมิ ภายใต้ชื่อ “บริษัท โอเอชทีแอล จำกัด (มหาชน)” (OHTL) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2551 มาจนถึงปัจจุบัน โดยได้ใช้ชื่อว่า “โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล” การตลาดของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล
ในปี พ.ศ. 2556 หนังสือพิมพ์ The Sunday Times ของอังกฤษ ได้ยกย่องให้โรงแรมแห่งนี้เป็น “โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก” และยังถูกจัดอันดับ ให้อยู่ในอันดับที่ 1 ในจำนวนโรงแรม 100 แห่งทั่วโลก โดยนิตยสาร Condé Nast Traveller ประเทศอังกฤษ และยังเป็นอันดับที่ 1 ในปี พ.ศ. 2560 อีกครั้ง โครงสร้างองค์กรโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล
Artist Em