
ถ้าพูดถึงโรงแรมหรูที่ “ที่สุดของที่สุด” ในกรุงเทพฯ ยังไงก็ต้องมีชื่อ Mandarin Oriental Bangkok ติดโผแน่นอน ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่โรงแรม 5 ดาวธรรมดา แต่เป็น ตำนานที่มีชีวิต โรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา มานานกว่า 145 ปี และยังคงรักษามาตรฐานความหรูหราแบบเหนือระดับ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา คุณจะรู้สึกได้ถึง บรรยากาศสุดคลาสสิก ผสมผสานกับกลิ่นอายความเป็นไทย ที่ลงตัวแบบไม่มีใครเหมือน
ห้องพักคือที่สุด วิวคือว้าว ไหนจะบริการระดับพระกาฬแบบที่เซเลบริตี้ระดับโลกยังต้องหลงรัก ไม่ว่าจะเป็น Afternoon Tea สุดหรูที่ Author’s Lounge, ดินเนอร์สุดพรีเมียมที่ Le Normandie (2 ดาวมิชลิน), หรือ The Oriental Spa ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในเอเชีย เรียกได้ว่าทุกจุดคือความเพอร์เฟกต์ที่ควรลองสักครั้งในชีวิต
ทำไม Mandarin Oriental Bangkok ถึงเป็นโรงแรมที่คุณต้องไปสักครั้ง?
ถ้าจะหาโรงแรมที่ “หรูแบบตัวแม่” ในกรุงเทพฯ Mandarin Oriental Bangkok คือเบอร์หนึ่งที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง นี่ไม่ใช่แค่โรงแรม 5 ดาวธรรมดา แต่มันคือ ตำนานที่มีชีวิต อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งแต่ปี 1876 ความพิเศษของที่นี่คือ บริการระดับเวิลด์คลาสที่โคตรใส่ใจ จนแขก VIP ระดับโลกต้องยกนิ้วให้ ไหนจะห้องพักสุดหรูที่วิวแม่น้ำคือสวยตาแตก
มีอาหารระดับมิชลินที่แค่ลองคำแรกก็ละลายในปาก และ The Oriental Spa ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทุกอย่างที่นี่คือ “ที่สุด” แบบที่ไม่ต้องอวยเยอะ ถ้าคุณอยากสัมผัสชีวิตแบบไฮเอนด์ที่แท้ทรู ที่นี่คือจุดหมายที่ควรมาให้ได้สักครั้ง
ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน: จากยุคอดีตสู่ความเป็นโรงแรมระดับโลก
Mandarin Oriental Bangkok ไม่ใช่แค่โรงแรมหรู แต่คือ ตำนานที่มีชีวิต อยู่คู่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่ ปี 1876! เริ่มต้นจากการเป็น “The Oriental” โรงแรมแห่งแรกของไทยที่เปิดรับนักเดินทางจากทั่วโลก จนกลายเป็นที่พักประจำของเหล่าคนดังระดับโลก ตั้งแต่ Ernest Hemingway, Princess Diana, ไปจนถึง David Beckham ที่นี่ผ่านการรีโนเวทหลายครั้ง
แต่ยังคงความคลาสสิกและเอกลักษณ์แบบไทยแท้เอาไว้ไม่มีเปลี่ยน จุดเด่นที่ทำให้ Mandarin Oriental Bangkok เป็นมากกว่าโรงแรม ก็คือ บริการที่โคตรพิถีพิถัน และบรรยากาศที่เหมือนย้อนเวลากลับไปยุคราชวงศ์ แต่ยังมีความโมเดิร์นหรูหราครบทุกดีเทล ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงยังครองตำแหน่ง โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก มายาวนาน
ห้องพักระดับไอคอนิก: หรูหรา คลาสสิก และเหนือระดับ
ถ้าพูดถึงห้องพักใน Mandarin Oriental Bangkok บอกเลยว่า ไม่มีคำว่าธรรมดา ทุกห้องที่นี่ถูกออกแบบมาให้เป็นมากกว่าที่พัก แต่คือ งานศิลปะที่มีชีวิต ผสมผสานความคลาสสิกและความโมเดิร์นแบบลงตัว ซึ่งไฮไลต์เด็ดของที่นี่ต้องยกให้ The Authors’ Wing และ The River Wing ที่เป็นไอคอนของโรงแรมนี้แบบตัวจริง
The Authors’ Wing
ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศ ห้องพักแบบราชวงศ์ ต้องเลือก The Authors’ Wing นี่คือ โซนที่เก่าแก่ที่สุดของโรงแรม และยังคงดีไซน์แบบโคโลเนียลสุดหรูที่หาดูได้ยาก ทุกห้องมาพร้อม เพดานสูง โปร่ง โล่ง สบาย และการตกแต่งที่ให้กลิ่นอายความเป็นไทยแบบพรีเมียม บอกเลยว่าคุณจะรู้สึกเหมือนอยู่ใน ยุคทองของนักเขียนระดับโลก เพราะโซนนี้เคยต้อนรับแขก VIP อย่าง Joseph Conrad และ Somerset Maugham ที่เคยมาพักและใช้ที่นี่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือ ที่สำคัญคือบริการ Butler ส่วนตัว ที่จะดูแลคุณแบบ เอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ
The River Wing
สำหรับใครที่ชอบบรรยากาศโมเดิร์นแต่ยังคงกลิ่นอายความเป็นไทยแบบพรีเมียม The River Wing คือห้องที่ต้องไปโดน ทุกห้องในโซนนี้คือ วิวแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มตา ตื่นเช้ามาเปิดม่านแล้วเจอวิวแม่น้ำสวย ๆ คือที่สุดของความฟิน ตัวห้องตกแต่งแบบ หรูหรา + อบอุ่น มีความเป็นไทยร่วมสมัย แถมยังอัปเกรดเทคโนโลยีใหม่หมด ทั้ง ไฟอัตโนมัติ ควบคุมด้วยระบบดิจิทัล และอ่างอาบน้ำสุดหรูที่เหมาะกับการแช่ตัวมองวิวเพลิน ๆ
สัมผัสรสชาติระดับโลกที่ Mandarin Oriental Bangkok Restaurant
ถ้าคุณเป็นสายกินที่หลงใหลในรสชาติระดับโลก Mandarin Oriental Bangkok คือ The Ultimate Destination ที่คุณต้องมาลองสักครั้ง ที่นี่ไม่ได้มีแค่บรรยากาศหรูหราเท่านั้น แต่ยังเป็น แหล่งรวมร้านอาหารสุดพรีเมียม ตั้งแต่ อาหารฝรั่งเศสระดับมิชลินสตาร์, ซีฟู้ดพรีเมียม, อาหารจีนต้นตำรับ ไปจนถึง Afternoon Tea สุดไอคอนิก ที่ขึ้นชื่อที่สุดในไทย แต่ละร้านคือ ที่สุดของความอร่อย ที่แม้แต่เซเลบริตี้ระดับโลกยังต้องจองล่วงหน้า
Le Normandie by Alain Roux (2 ดาวมิชลิน)
อยากสัมผัส Fine Dining ฝรั่งเศสแท้ ๆ แบบที่เชฟมิชลินสตาร์ระดับโลกมาทำให้กินเองต้อง Le Normandie by Alain Roux นี่คือหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดของไทยที่ได้ 2 ดาวมิชลิน ติดต่อกันมาหลายปี จุดเด่นของที่นี่คือ วัตถุดิบระดับพรีเมียมจากยุโรป ปรุงอย่างพิถีพิถันโดยเชฟ Alain Roux ที่ทำอาหารแบบ หรูหรา แต่ไม่เวอร์ รสชาติคือ นุ่มลึก ละเมียดละไมทุกคำ
มีเมนูที่ต้องลองคือ Canard à la Presse (เป็ดฝรั่งเศสปรุงแบบคลาสสิก) กับ Lobster with Coral Butter Sauce บอกเลยว่าฟินจนลืมโลก! แถมร้านนี้ยังอยู่บนชั้นสูงของโรงแรม วิวแม่น้ำคือสวยตาแตก โรแมนติกสุด ๆ
Lord Jim’s
ถ้าคุณคือสายซีฟู้ด บอกเลยว่า Lord Jim’s คือที่สุดของที่สุด! ที่นี่เป็น ซีฟู้ดบุฟเฟต์ระดับพรีเมียม ที่มีแต่ของดี ๆ เช่น ล็อบสเตอร์สด ๆ, ปูอลาสก้า, หอยนางรมฝรั่งเศส และ แซลมอนรมควันแบบโฮมเมด วัตถุดิบคือสดแบบขีดสุด ปรุงมาแบบพรีเมียม ที่สำคัญคือ ไม่มีของแช่แข็ง ไม่มีของเกรดรอง ทุกอย่างคือระดับไฮเอนด์หมด นอกจากซีฟู้ดแล้ว ที่นี่มี เนื้อวากิวระดับ A5, ฟัวกราส์ และขนมหวานที่อลังการเวอร์ ถ้าคุณกำลังมองหา บุฟเฟต์โรงแรมที่คุ้มที่สุดในกรุงเทพฯ บอกเลยว่าต้องมาลอง
The China House
สายอาหารจีนห้ามพลาด The China House คือร้านที่เสิร์ฟ อาหารจีนกวางตุ้งระดับไฮเอนด์ ในบรรยากาศที่ให้ฟีลเหมือนอยู่เซี่ยงไฮ้ยุค 1930s ความปังของที่นี่คือ ซุปเป็ดปักกิ่งสูตรโบราณ, ติ่มซำระดับเทพ
และหมูกรอบที่กรอบจนละลายในปาก วัตถุดิบทุกอย่างคือคัดมาแบบ โคตรพรีเมียม เช่น หูฉลามน้ำแดงที่ใช้เฉพาะหูฉลามเกรดดีที่สุด, เป็ดปักกิ่งที่หนังกรอบจนสะเทือนใจ และติ่มซำที่ลูกใหญ่เต็มคำแบบ กัดทีเดียวรู้เรื่อง ถ้าคุณอยากสัมผัส อาหารจีนในเวอร์ชันไฮเอนด์ ที่ทั้งอร่อยและอลังการ ที่นี่คือตัวเลือกที่ต้องไป
Afternoon Tea ที่ Author’s Lounge
ถ้าพูดถึง Afternoon Tea ที่หรูที่สุดในไทย ไม่มีที่ไหน ตำนาน เท่า Author’s Lounge อีกแล้ว นี่คือห้องน้ำชาที่อยู่ใน โซน The Authors’ Wing ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เก่าแก่ที่สุดของโรงแรม ที่นี่ให้ฟีล ผู้ดีอังกฤษสุด ๆ ตั้งแต่การตกแต่งแบบโคโลเนียลไปจนถึง ชุดน้ำชา Royal Afternoon Tea ที่เสิร์ฟพร้อม สโคนอุ่น ๆ, แซนด์วิชสโมกแซลมอน และขนมหวานที่หน้าตาดีระดับถ่ายลงไอจีแล้วต้องมีคนถามว่าที่ไหน ที่สำคัญคือชาแต่ละตัวที่นี่คือ คัดสรรมาอย่างดีจากแบรนด์ระดับโลก ถ้าอยากสัมผัสฟีล จิบชาแบบเจ้าหญิง ที่นี่คือที่ที่คุณต้องไปสักครั้งในชีวิต
สปาที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ: The Oriental Spa ใน Mandarin Oriental Bangkok
ถ้าพูดถึง “ที่สุดของสปา” ในกรุงเทพฯ The Oriental Spa ที่ Mandarin Oriental Bangkok คือเบอร์หนึ่งแบบไม่มีใครโค่นได้ ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่สปาหรูทั่วไป แต่คือ สปาระดับตำนาน ที่ได้รางวัลมาเพียบ และขึ้นชื่อว่าเป็น “สวรรค์แห่งการผ่อนคลาย” ที่ดีที่สุดในเอเชีย จุดเด่นของที่นี่คือ บรรยากาศไทยแท้ที่เงียบสงบสุด ๆ ตั้งอยู่ในเรือนไทยไม้สักสุดคลาสสิก
แค่ก้าวเข้าไปก็คือเหมือนหลุดไปอีกโลก ทรีตเมนต์คือ ระดับท็อป ทุกคอร์สใช้ น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ และมี เทคนิคการนวดที่ผสมผสานศาสตร์ไทยโบราณกับความโมเดิร์น ไม่ว่าจะเป็น “Oriental Signature Treatment” ที่ช่วยรีเซ็ตพลังชีวิต หรือ “Thai Herbal Compress” ที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อแบบขั้นสุด ทุกอย่างคือดีต่อใจและกายแบบ 10/10 ถ้าคุณกำลังมองหาสปาที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือน เกิดใหม่ ที่นี่คือที่ที่ต้องมาลองสักครั้งในชีวิต
สรุป Mandarin Oriental Bangkok เหมาะกับใคร?
ถ้าคุณเป็นสาย หรู เรียบ แต่โคตรแพงและคลาสสิก บอกเลยว่า Mandarin Oriental Bangkok คือที่ที่คุณต้องมา ที่นี่เหมาะกับ นักเดินทางระดับไฮเอนด์, คู่รักที่อยากฮันนีมูนแบบเวิลด์คลาส, นักธุรกิจที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และคนที่อยากให้รางวัลตัวเองด้วยประสบการณ์สุดพิเศษ ทุกอย่างที่นี่คือ ระดับโลก ตั้งแต่ห้องพักที่หรูหราเกินเบอร์
อาหารที่ได้รับมิชลินสตาร์ ไปจนถึง The Oriental Spa ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสปาที่ดีที่สุดในไทย ใครที่มองหาโรงแรมที่มี บริการระดับตำนาน, บรรยากาศสงบแต่อลังการ และประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น บอกเลยว่าคุ้ม ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่โรงแรม แต่มันคือ “A once-in-a-lifetime experience” ที่คุณต้องมาลองสักครั้ง